ความเป็นมาของ "ร่ม"

        

       เมื่อพูดถึง ร่ม หลายๆคนก็จะคิดเสมอว่า เป็นตัวช่วยที่ทำไม่ให้เปียกของหลายๆ คนในหน้าฝนและสามารถเดินทางได้สะดวกขึ้นในเวลาที่ฝนตก แต่ใครจะรู้บ้างว่าจริง ๆ แล้วร่มในสมัยก่อนหรือยุคเริ่มแรกเขาไม่ได้มีไว้กันฝน "ร่ม" หรือที่เรียกว่า Umbrella มีรากศัพท์มาจากคำว่า Umbra ซึ่งเป็นภาษาละติน แปลว่า "บังแดด" ร่มถือกำเนิดขึ้น
       ในดินแดนเมโสโปเตเมีย เมื่อประมาณ ๓,๕๐๐ ปีมาแล้ว ซึ่งดินแดนแถบนี้จะมีพื้นที่เป็นทะเลทรายเกือบทั้งหมด นานๆจะมีฝนตกลงมาสักที จึงใช้ร่มในการกันแดดมากกว่ากันฝน จนเมื่อราว ๑,๒๐๐ ปี ก่อนคริสต์กาล ในสังคมอียิปต์เชื่อกันว่า ท้องฟ้าคือร่างกายของเทพธิดานามว่า "นัต" ซึ่งปกคลุมโลกดุจร่มอันมหึมา มนุษย์จึงได้คิดสร้างร่มขึ้นไว้เป็นตัวแทนของเทพธิดานัต เพื่อใช้ปกป้องคุ้มครองผู้ที่อยู่ใต้ร่มเงา ที่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงศักดิ์ โดยเฉพาะกษัตริย์

       ต่อมา ชาวกรีกได้รับเอาวัฒนธรรมการกางร่มมาจากอียิปต์ ในยุคแรกๆ นั้นจะมีความเชื่อว่า ผู้ที่จะกางร่มได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีอำนาจเท่านั้น แต่ระยะหลังความเชื่อนี้เริ่มจางลง ทำให้คนธรรมดาก็สามารถ ที่จะเดินกางร่มได้ แต่การกางร่มก็จำกัดอยู่เฉพาะในวงของสตรีเท่านั้น ซึ่งวัสดุที่ใช้ในการทำร่มส่วนใหญ่ คือ กระดาษ ต่อมาบรรดาผู้หญิงก็เริ่มที่จะเรียนรู้วิธีการทำร่มแบบใหม่ ที่นอกจากจะกันแดดได้แล้ว ยังสามารถกันฝนได้ด้วย โดยการใช้น้ำมันทาลงบนร่มกระดาษให้ทั่ว ซึ่งร่มก็จะสามารถกันน้ำได้ จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ ๑๘
       ผู้ที่กางร่มส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นผู้หญิง เพราะเนื่องจากว่าผู้ชายกลัวที่จะโดนสบประมาทว่าอ่อนแอจึงไม่ค่อยมีใครนิยมกางร่มเท่าใดนัก จนในปี คริสต์ศักราช ๑๗๕๐ โจนาส แฮนเวย์ ชายชาวอังกฤษ เป็นชายคนแรกที่ลุกขึ้นมา พกร่มท่ามกลางเสียงเย้ยหยันของคนรอบข้าง แต่เขาไม่สนใจและยังยืนยันว่าจะพกร่มต่อไป จนกระทั่งการพกร่มเป็นที่ยอมรับของคนอังกฤษไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม จนกระทั่งถึงทุกวันนี้

Credit By: วิกิพีเดีย ,ร่ม